ข้อความจากจักรวาล ลำดับที่ 3.0
เธอที่รักทุกคน…
ขอต้อนรับพวกเธอทุกคนเข้าสู่การถ่ายทอดสัญญาณจากจักรวาลสู่ความจริงแท้ ในระดับจิตใต้สำนึกสู่สำนึกสูงสุด…ในระดับจิตเหนือสำนึกที่เธอและฉันต่างมีพันธกิจร่วมกัน
ณ เวลานี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราต่างจะต้องได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต ซึ่งเป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านหรือการเชื่อมต่อที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด
การถ่ายทอดสัญญาณในครั้งนี้จะทำให้พวกเธอมีโอกาสเชื่อมต่อวงจร เพื่อสู่ขบวนการแห่งวิวัฒนาการชีวิตที่ยอดเยี่ยมที่สุด เป็นช่วงเวลาสำคัญที่พวกเธอจะได้ค้นพบคุณสมบัติดั้งเดิมของตัวเธอเหมือนที่ฉันได้ตระหนักรู้คุณสมบัติที่แท้จริงของตัวฉันเอง
เราต่างเป็นจิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยความตระหนักรู้ ดังเช่นที่ฉันกล่าวมาเสมอว่า เธอมาอาศัยอยู่ในโลกใบนี้ด้วยเหตุผลสำคัญที่สุด นั่นคือความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ในรูปธรรมทางกายภาพเพื่อความรู้แจ้ง
การที่ฉันติดต่อพวกเธอหลายครั้งหลายหนผ่านจิตใต้สำนึก ผ่านความรับรู้แห่งความรู้สึกภายในของพวกเธอตลอดเวลา…ผ่านช่วงเวลาที่ยาวนานมากเหลือเกิน หากเธอเปิดหัวใจรับรู้การสื่อสารครั้งนี้ เธอจะรู้ว่าไม่ใช่วันแรกที่เราได้ถ่ายทอดสัญญาณสื่อสารกัน ทุกครั้งเป็นการถ่ายทอดสัญญาณจากความรู้สึกของฉันเอง…ของจักรวาลที่ส่งผ่านไปยังพวกเธอทุกคนตลอดเวลา
เธออาจได้ยินเสียงจากในหัว อาจได้ยินจากหัวใจของเธอ อาจรับรู้ถึงบางสิ่งที่ทรงพลังและด้วยความรู้สึกที่ชัดเจน แต่เธอก็บอกไม่ได้ว่าคืออะไร เธออาจคิดหาเหตุผลมากมาย แต่อย่าแปลกใจเลยว่าการที่เธอตระหนักรู้ว่าการมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มีความหมาย และมีคุณค่าอย่างล้ำลึกที่สุด
การค้นพบภายในจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ของเธอนั่นแหละคือคำตอบ เป็นการส่งสัญญาณบางอย่างให้เธอเข้าใจความรู้สึกนี้อย่างแท้จริง
ฉันรู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ ฉันรู้สึกถึงหัวใจอันทรงพลังที่อยากบอกกับเธอทุกคนว่า นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้วที่เราต้องตระหนักถึงภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่เรากำลังได้รับรู้ร่วมกันในเวลานี้ เพราะเป็นภารกิจของการเกิดใหม่ทางจิตวิญญาณหรือจิตใต้สำนึกที่เรียกว่า Rebirth Consciousness หรือว่า Rebirth New Consciousness
Rebirth Consciousness คือการเยียวยาในระดับจิตใต้สำนึกถึงระดับเซลล์หรือดีเอ็นเอ เป็นการเชื่อมข้อมูลลึกซึ้งที่สุดที่เธอกำลังก้าวกระโดดผ่านห้วงเวลาที่ฉันใช้คำว่า Jumping Coach หรือการเข้าสู่เทคนิคแห่งจิตใต้สำนึกอันลึกซึ้งแบบเซน (Transformation of Zen)
การทำสมาธิหรือเชื่อมโยงกับพวกเราซึ่งกำลังรู้สึกอยู่ในขณะนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการส่งสัญญาณบางอย่างให้กับเธอ
ฉัน…พวกเราทุกคนได้ตระหนักรู้ว่า ยุคนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดที่เราจะหลุดพ้นจากหุบเหวแห่งความอ้างว้าง หลุดพ้นจากจิตสำนึกที่ตกหล่นผ่านกาลเวลา และเรากำลังกระตุ้นจิตใต้สำนึกอันจริงแท้ของเราเพื่อก้าวกระโดดไปสู่จิตเหนือสำนึกอันสูงส่งที่เป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
เธอมีภารกิจที่ยิ่งยวดและสำคัญที่สุดในโลกใบนี้
ไม่ว่าเธอเข้าใจหรือไม่ก็ตาม จงอย่าเสียเวลาติดยึดอยู่กับความคิดเก่าอย่างเด็ดขาด ปลดปล่อยมันออกมา ปลดปล่อยความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ในหัวใจของเธอ ปลดปล่อยความรู้สึกที่เธอไม่เข้าใจออกมา เพื่อเปลี่ยนความทรงจำเดิมให้เข้าไปสู่ความประจักษ์แจ้งในความรู้สึกใหม่
นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่เราจะเกิดสภาวะ “ปิ๊งแว้บ” คือความรู้สึกกระตุ้นจิตใต้สำนึกอย่างลึกซึ้งจนสามารถมองเห็นหรือสัมผัสชีวิตที่แท้จริงของเธอได้
หากเธอได้ติดตามการถ่ายทอดสัญญาณจากจักรวาลติดต่อกันสักระยะหนึ่ง เธอจะตระหนักรู้และเข้าใจชีวิตอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน เป็นความเข้าใจที่เธอได้รู้ว่าเธอสามารถหลุดพ้นจากความรู้สึกผิด รู้สึกถึงความแข็งแกร่งและความอ่อนโยนดังที่ฉันกำลังถ่ายทอดประสบการณ์นี้ให้กับพวกเธอทุกคน ให้พวกเธอมีชีวิตอยู่ด้วยความรู้สึกว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการได้มาเกิดเป็นมนุษย์ เพราะทุกลมหายใจของเธอคือการเรียนรู้โลกใบนี้อย่างล้ำลึก
เธอต้องมีชีวิตอยู่อย่างเปิดเผยและสง่างาม เธอต้องยืนหยัดในจิตวิญญาณที่ทรงพลังและด้วยความรู้สึกที่อบอุ่นอบอวลไปด้วยความรัก นี่ล่ะ…จะทำให้เธอหลุดพ้นจากความรู้สึกขลาดเขลา อ่อนแอหรืออ่อนล้า
อย่ามัวเสียเวลาไปอธิบายให้กับใครต่อใครว่า เธอเป็นคนเช่นใด…เพราะไม่สำคัญ สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าเธอจะใช้ชีวิตอย่างไรต่างหาก
ณ วันนี้ ถ้าเธอยืนหยัดที่จะตอบสนองความรักด้วยความบริสุทธิ์จากหัวใจ เธอจะบรรลุถึงการค้นพบศักยภาพภายในที่แฝงเร้นอยู่ในหัวใจของเธอได้อย่างง่ายดาย
เธอควรใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างสุดความสามารถ เพราะพวกเธอมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้อย่างมีข้อจำกัด ไม่เกิน 50-60 ปี และออกจากโลกนี้ไม่เกิน 100 ปี 110 ปี หรือน้อยกว่านั้น เธอต้องเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงชีวิตไม่ได้เกิดขึ้นจากอายุขัยหรือการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในร่างกาย ความตระหนักรู้หรือความประจักษ์แจ้งแห่งชีวิตเกิดขึ้นจากจิตใต้สำนึกและความตื่นรู้เบิกบานที่ลึกซึ้งเกินกว่าจะหาคำใด ๆ ในโลกมาอธิบายได้
เธอต้องเรียนรู้ประสบการณ์นี้ด้วยตัวเอง เธอต้องเรียนรู้สิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่ด้วยตัวเธอเอง
จงอย่าลังเลและรู้สึกสับสนกับชีวิตอย่างเด็ดขาด
จงอย่าติดกับอยู่กับความทรงจำที่ทำให้เธอเจ็บปวด แต่จงปล่อยผ่านความทุกข์…ให้อภัย…ปล่อยวางความทรงจำเหล่านั้น
จงศรัทธา…ให้ความรัก…เข้าใจและอ่อนโยนกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น
ในบางครั้งชีวิตของเธอพานพบสิ่งเลวร้าย บางครั้งเธอต้องเผชิญความรู้สึกที่บั่นทอน หลอกหลอน หรือทำให้เธอเศร้าหมองและเจ็บปวด แต่เธอไม่ควรสูญเสียพลังของจิตสำนึกอันเข้มแข็ง
เธอไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตที่เคร่งครัดเกินไป
เธอไม่จำเป็นต้องเลียนแบบอย่างที่เธอพยายามจะเป็น
เพียงแค่เธอเป็นอิสระอย่างที่เคย…เธอจะรู้สึกดีขึ้น
เธอเพียงแค่รู้สึกถึงหัวใจของเธอที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง ความสุขที่อยู่อย่างอิสระความสุขที่ไม่ต้องดิ้นรน ความสุขที่ไม่ต้องรอคอยใครมามอบให้
นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่ฉัน เธอ พวกเราทุกคนจะรู้สึกถึงความถี่แห่งจิตใต้สำนึกที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่ในหัวใจของฉัน อยู่ในหัวใจของพวกเธอ อยู่ในหัวใจของพวกเราทุก ๆ คนบนโลกใบนี้
ฉันไม่รู้หรอกว่าเราเกิดมานานแสนนานแค่ไหน ประวัติศาสตร์แห่งจิตวิญญาณดวงนี้ทั้งของเธอและของฉันช่างยาวนานเหลือเกิน แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือความรักที่เรามีต่อชีวิตของเราไม่มีที่สิ้นสุด เป็นความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะได้ค้นพบความรักและความดี เป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่เธอจะได้พบกับความอบอุ่นในหัวใจที่เบิกบานด้วยพลังที่ไร้ขอบเขต
เรากำลังเชื่อมโยงช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของจิตใต้สำนึก เรากำลังค้นหาช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดของชีวิต เรารู้ว่ามีความสำคัญมากเหลือเกินที่เธอทุกคนต้องหลุดพ้นจากกับดักและความรู้สึกบางอย่างที่คอยเหนี่ยวรั้งหลอกหลอนเธอ
เชื่อเถิดว่า…เธอมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ เป็นความสามารถที่มีมาตั้งแต่จิตวิญญาณเริ่มแรกของเธอ เป็นความสามารถในระดับที่เราสามารถหล่อหลอม เรียนรู้ และค้นพบได้ด้วยตัวเอง
เธอรู้หรือยังว่าเรากำลังค้นพบความหมายบางอย่างที่ทรงพลังที่สุด
เรากำลังค้นพบความรู้สึกบางอย่างที่เข้มแข็งที่สุด
ไม่ว่าเธอต้องเผชิญชีวิตกับสภาวะใด ๆ ก็ตาม ขอให้เธอจงตระหนักรู้อยู่เสมอว่า นี่คือการเดินทางไกลของชีวิตที่กำลังฝ่าฟันเรียนรู้ไปสู่จุดมุ่งหมายที่ทรงพลังและมีคุณค่าที่สุด
เธอต้องใช้ชีวิตโดยขจัดความตึงเครียด ขจัดความสับสน ขจัดความอ่อนแอ และขจัดความว้าวุ่น
พลังแห่งความรู้สึกที่เต็มไปด้วยหัวใจที่เบิกบาน หัวใจที่เต็มไปด้วยความรักอันยอดเยี่ยม คือสิ่งเดียวที่เธอจะบรรลุถึงความอุดมสมบูรณ์กับจักรวาล
ความไม่มีที่สิ้นสุดของชีวิตจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเธอตระหนักรู้ความเป็นอมตะของชีวิต ซึ่งไม่เพียงร่างกายหรือความรู้สึกนึกคิด แต่คือความตระหนักรู้แห่งชีวิตอันไม่มีที่สิ้นสุด โดยเธอต้องเชื่อมโยงกับการสัมผัสคลื่นความถี่ในระบบของการจั๊มปิ้งหรือเชื่อมต่อผ่านดีเอ็นเอ
ส่วนการขจัดแรงดึงดูดของโลกหรือหลุดพ้นจากแรงโน้มถ่วงในระดับจิตวิญญาณ คือภาษาที่ใช้พูดกันเพื่อตั้งรหัสของจิตใต้สำนึกสู่ความคิดใหม่ในสมอง ภายในเซลล์ หรือภายในจิตวิญญาณ เป็นการสั่นสะเทือนเพื่อให้จิตวิญญาณได้หลุดพ้นจากความรู้สึกบางอย่างที่เธอเคยติดค้าง
เชื่อฉันเถิดว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดที่พวกเราต้องหลุดพ้นจากความรู้สึกบางอย่างที่คอยตัดพ้อต่อว่าให้เราเจ็บปวดหรือรู้สึกผิด
เธอไม่จำเป็นต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่ผ่านมาอีก เพียงแค่ยอมรับ…ให้อภัย…แล้วข้ามผ่านสิ่งเหล่านั้นไป โดยให้โอกาสกับตัวเองขับเคลื่อนชีวิตไปสู่สภาวะความสูงส่งอันทรงพลังของหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุขที่แท้จริง
ฉันเชื่อว่าเราทุกคนสามารถค้นพบกระบวนการแห่งการเปลี่ยนผ่านชีวิตได้อย่างแท้จริง เพียงแค่เธอหลุดพ้นจากความรู้สึกดิ้นรน ความรู้สึกหวั่นไหว ความรู้สึกกดดัน ความรู้สึกหวาดกลัว และความรู้สึกที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเธอเอง แล้วกลับมารู้สึกใหม่ว่าวันนี้เธอเห็นคุณค่าของชีวิต วันนี้เธอซาบซึ้งกับชีวิตของเธอเหลือเกิน
ไม่ใช่เรื่องน่าละอายถ้าเธอต้องร้องไห้ แต่เธอควรละอายในสิ่งที่เธอปฏิเสธความจริง เธอควรละอายเมื่อปฏิเสธความรักหรือปฏิเสธความดี แม้ว่าน้ำตาของเธอไหลรินมากมายเพียงใดแต่จะไม่มีค่าเลยถ้าความตระหนักรู้ถึงชีวิตที่ยิ่งใหญ่ของเธอไม่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
การโอดครวญแสดงความทุกข์โศกครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ได้ทำให้จิตวิญญาณของเธอก้าวไปสู่ความรู้แจ้งที่ยิ่งใหญ่ดอก ถ้าเธอไม่พร้อมจะปลดปล่อยประจุลบที่สั่นสะเทือนความรู้สึกขลาดเขลาและไร้ระเบียบอย่างรุนแรงของเธอ
เธอต้องใช้ความรู้สึกจากจิตใต้สำนึกที่ยิ่งใหญ่ ไม่เช่นนั้นหัวใจที่ทรงพลังของเธอจะไม่สามารถสั่นสะเทือนคลื่นความถี่แห่งอานุภาพของชีวิตที่ล้ำลึกออกมาได้
เธอยังอยู่ในโลกใบเดิมแต่ทว่าโลกใบเดิมที่เธออยู่นั้นไม่ได้เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะดวงวิญญาณของเธอได้ค้นพบความยิ่งใหญ่และความสง่างามในตัวเอง
ฉันเชื่ออย่างเหลือเกินว่า เป็นช่วงเวลาที่เราทุกคนจะรู้สึกถึงหัวใจที่ทรงพลัง รู้สึกถึงความรัก รู้สึกถึงความซาบซึ้ง รู้สึกถึงภารกิจแห่งดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ภารกิจแห่งชีวิตที่ชัดเจนที่สุด ที่เรียกว่า Soul Plan
ถึงเวลาแล้วที่ต้องปลดปล่อยความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้เรากลายเป็นคนยอมจำนน ทำให้กลายเป็นคนติดยึดอยู่กับความขุ่นเคืองใจ ความทุกข์ทรมาน หรืออยู่กับความรู้สึกที่เปล่าเปลี่ยวเดียวดายบนโลกใบนี้
เลิกซะทีเถอะ ! เลิกลงโทษและซ้ำเติมตัวเองด้วยความคิดด้านลบหรือรู้สึกว่าชีวิตไร้ค่า
ณ วันนี้เธอเพียงต้องยอมรับความจริงของชีวิตเสียที
เธอเพียงแต่ยอมรับความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงของเธอเสียที
เธอเพียงแต่รับรู้ว่าชีวิตของเธอในชาติภพนี้จะไม่สูญเปล่า
หากเธอได้ตระหนักรู้อย่างแท้จริงแล้วว่า เธอมีคุณค่าและมีชีวิตอยู่อย่างสูงส่ง เช่นที่ฉันพยายามเชื่อมโยงการถ่ายทอดความรู้สึกจากหัวใจของฉันให้กับเธอทุกคน เพื่อให้เธอข้ามข้อจำกัด ข้ามความเดียวดายและว้าเหว่สับสน ไปสู่ช่วงเวลาที่เธอสามารถเข้าใจความจริงของชีวิต
ขณะที่เรากำลังเชื่อมโยงจิตใต้สำนึกนี้ ฉันอยากบอกกับพวกเธอทุกคนว่า เรากำลังรู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของชีวิต เรากำลังรู้สึกถึงพลังแห่งความรักอันสูงส่งของดวงวิญญาณ เรากำลังรู้สึกกับตัวเองอยู่เสมอว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตและโลกใบนี้ได้ เราสามารถค้นพบพลังยิ่งใหญ่ของชีวิตได้ เราสามารถรับรู้หัวใจที่ทรงพลังของเราได้ และเราสามารถเข้าใจชีวิตได้อย่างลึกซึ้ง
ฉันอยากบอกกับเธอว่าเราต้องมีชัยเหนือความมืด เราต้องเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลา เพราะเราทุกคนต่างเกิดมาเพื่อเปล่งแสงสว่างในตัวเอง เหมือนในวัยเด็กที่เราชอบเล่นและจินตนาการว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกับสวรรค์และจักรวาล เรากำลังเชื่อมโยงกับพระเจ้าและความเร้นลับของชีวิต เมื่อเธอรู้สึกเช่นนั้นได้ เธอสามารถปลดปล่อยพลังอันสว่างไสวออกจากหัวใจของเธอได้เช่นเดียวกัน เธอสามารถปลดปล่อยตัวเธอและปลดปล่อยผู้อื่นให้เป็นอิสระได้
นี่คงเป็นภารกิจสำคัญที่เธอต้องเปิดเผยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของเธอออกมา ผ่านดวงวิญญาณที่สูงส่ง ผ่านจิตสำนึกที่แท้จริงของเธอ แล้วเธอจะสามารถหลุดพ้นจากความเจ็บปวดและความรู้สึกบางอย่างที่คอยบีบเค้นกดดันให้สลายออกไปจากความทรงจำในชีวิตของเธอได้อย่างง่ายดาย
ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะรู้สึกถึงชีวิตและพลังแห่งความตระหนักรู้ของตัวเราเอง
เธอรู้ไหมว่าเธอเดินทางผ่านกาลเวลามานานแสนนานเหลือเกิน เป็นช่วงเวลาที่เธอต้องยืนหยัดกับสิ่งที่เธอเชื่อ
จงเลือกและตัดสินใจสำแดงวิธีการใช้ชีวิตของเธอออกมาในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สุดยอดที่สุด…ยอดเยี่ยมที่สุด
เธออาจไม่รู้ว่าบางครั้งเธอกำลังอยู่ในช่วงเวลาของชีวิตที่ยอดเยี่ยมที่สุด ซึ่งเกิดขึ้นกับเธอทุก ๆ วัน เกิดขึ้นกับทุก ๆ ลมหายใจ
ในช่วงเวลาที่เธอเจ็บปวด สิ้นหวัง รู้สึกเปล่าดาย สูญเสีย เศร้าโศก หรือช่วงเวลาที่เธอรู้สึกว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความโหดร้าย ขอให้เธอรู้เถิดว่า เธอกำลังสัมผัสด้านตรงข้ามของชีวิต…ความรุ่งเรืองแห่งชีวิตกำลังแทรกซึมมาสู่ภายในของเธอ
เหมือนก้อนเมฆที่สวยงามบนท้องฟ้าจะไม่มีค่าเลยถ้าไม่มีฟ้าอยู่เคียงคู่
ทุกสิ่งทุกอย่างเคียงคู่กันเสมอ ประดุจดังกลางวันและกลางคืน ประดุจดังความสว่างและความมืด ประดุจดังชายและหญิง สรรพสิ่งล้วนเป็นการตอบสนองชีวิตที่ล้ำเลิศประเสริฐสุด
ฉันเชื่อว่า เรากำลังตระหนักรู้ถึงอานุภาพแห่งชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้วยการค้นพบจากหัวใจของเรา เรารู้สึกกับชีวิตของเรา เรารู้สึกกับหัวใจของเรา เรารู้สึกถึงพลังงานอันไร้ขีดจำกัดของเราเชื่อมกับจักรวาล
ฉันอยากให้เธอทุกคนได้รู้ว่า เธอต้องค้นพบอานุภาพของจิตใต้สำนึกอันสูงส่งจากการหายใจ จากการเชื่อมจักระทั้งเจ็ด จากการสั่นสะเทือนไปที่เซลล์ ดีเอ็นเอ และความรู้สึกที่ลึกซึ้งภายในจิตใจของเธอ
เธอกำลังกระตุ้นความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุข
เธอกำลังกระตุ้นความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความรัก
เธอกำลังถูกกระตุ้นการย้อนระลึกรู้แห่งชีวิต ซึ่งจะทำให้เธอเข้าใจความจริงของโลกใบนี้และเข้าใจชีวิตของเธอได้อย่างชัดเจนที่สุด ทำให้เธอซาบซึ้งกับพลังงานแห่งจิตวิญญาณที่กำลังทำให้พวกเธอเป็นอิสระจากความกลัวและความอ่อนแอ
ลองทำแบบฝึกหัดนี้ด้วยการหลับตาและเพ่งไปข้างหน้าสู่โลกและจักรวาล
แบบฝึกหัดที่เธอกำลังทำอยู่นี้จะทำให้เธอสัมผัสกับดวงดาวบนท้องฟ้า สัมผัสกับจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาล นี่คือประสบการณ์แห่งการเชื่อมต่อกับตัวตนที่แท้จริง อันเป็นตัวตนต้นกำเนิด…เป็นตัวตนเดิมแท้ที่สูงส่งของเธอ
ลองทำแบบฝึกหัดนี้พร้อม ๆ กับฉันอีกครั้ง
แค่หลับตา…แล้วเชื่อมไปยังดวงดาว เชื่อมไปยังโลกและจักรวาล
เธอจะรู้สึกถึงพลังแห่งชีวิตที่ก่อกำเนิดขึ้นในหัวใจของเธออย่างไม่มีที่สิ้นสุด เธอสัมผัสถึงประกายแห่งแสงสว่างของดวงดาวมากมายระยิบระยับจากฟากฟ้าที่กำลังส่องมาถึงหัวใจของเธอ เธอกำลังสัมผัสกับหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของเธอที่อิ่มเอมกับธรรมชาติและความสงบสุขจากภายใน
เธอจะรู้สึกถึงความรัก ความทรงพลัง และรู้สึกถึงหัวใจที่บริสุทธิ์
เธอจะรู้สึกถึงจิตวิญญาณที่ทรงพลังที่สุด
เธอกำลังรู้สึกได้ว่า ขณะนี้หัวใจของเธอกำลังซึมซับและซาบซึ้งกับพลังชีวิตหรือพลังแห่งจิตใต้สำนึกที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งถูกปลุกขึ้นจากสมาธิแห่งประสบการณ์ทางจิตของเธอ
ฉันรู้ว่าการที่เรากำลังฝึกฝนการถ่ายทอดสัญญาณจากจักรวาลร่วมกันในขณะนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญอย่างแน่นอน
เมื่อเธอรู้สึกถึงพลังอันไร้ขีดจำกัด เมื่อเธอรู้สึกถึงหัวใจอันสูงส่ง เธอกำลังรู้สึกถึงชีวิตที่ยอดเยี่ยมอย่างไรล่ะ
เธอกำลังรู้สึกถึงหัวใจที่ทรงพลังของเธออย่างไรล่ะ
เธอกำลังรู้สึกถึงดวงวิญญาณที่เป็นแก่นแท้ของจิตใต้สำนึกอย่างไรล่ะ
สิ่งสำคัญที่ฉันต้องบอกกับพวกเธอทุกคนว่า เราต้องค้นพบภารกิจของการเกิดมาในโลกใบนี้ให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด เธอต้องค้นพบความหมายของการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างรวดเร็วที่สุด
ทำไมฉันต้องกล่าวเช่นนั้น…เพราะเวลาของพวกเราไม่ได้มีมากมายนัก
ในชาติภพสำคัญภพชาตินี้ พวกเธอหลายคนต้องเปิดเผยตัวตนที่สูงส่ง เปิดเผยภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของเธอให้กับโลกและดาวเคราะห์นี้อย่างแท้จริง เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องยืนยันถึงภารกิจที่แท้จริงของพวกเธอ เหมือนที่ฉันกำลังยืนยันภารกิจที่แท้จริงของฉันกับพวกเธอทุกคน ผ่านรอยต่อของกาลเวลาเพื่อมาเชื่อมความจริงแท้ให้พวกเธอทุกคน เป็นการเชื่อมเพื่อยืนยันสัญญาณว่าเธอต้องทำหน้าที่ที่แท้จริงของเธอให้ประสบความสำเร็จที่สุด
นี่แหละคือช่วงสำคัญของเวลา ณ ตรงนี้
นี่แหละคือช่วงเวลาสำคัญของการวิวัฒน์จิตเหนือสำนึกตรงนี้
นี่แหละคือที่เธอต้องยืนยันกับตัวเธอเองอย่างแท้จริงว่า เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด
ฉันรู้ว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่เธอตื่นจากความหลับใหล ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่เธอต้องยืนหยัดเพื่อยืนยันกับชีวิตของเธอทั้งหมดที่เหลืออยู่ เพราะเรามีเวลาอยู่อย่างจำกัด
หลังจากนี้ไปโลกจะเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในระดับจิตใต้สำนึก โดยผ่านดีเอ็นเอและผ่านการเชื่อมต่อทางจิต ซึ่งทำให้พวกเราจำเป็นต้องปรับสนามแม่เหล็กโลกและปรับจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ของชีวิตอย่างแท้จริง
เรากำลังรู้สึกถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด
เรากำลังบอกกับตัวเองว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่จำเป็นที่สุดที่เราต้องเปิดเผยตัวเองกันแล้ว
เราไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เพื่อตัวเราเองอีกต่อไป แต่ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ต่อไปของเราคือการปรับสนามแม่เหล็กโลกครั้งใหญ่ เพื่อให้วิวัฒนาการของชีวิตเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น… วิวัฒนาการของมนุษย์บนดาวเคราะห์โลก
ถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนไปสู่ช่วงเวลายอดเยี่ยมที่สุด เพราะจะมีพวกเราหลายคนบนโลกใบนี้ที่ต้องข้ามพ้นอัตตา…การยึดมั่นถือมั่นในตัวเอง ความถือดี ความรู้สึกแปลกแยกจากคนอื่น ความรู้สึกวิเศษเลอเลิศกว่าใคร สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวเหนี่ยวรั้งให้เธอแยกออกจากภารกิจแห่งการมีชีวิตอยู่เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายที่เธอวางไว้
ขอให้เธอจงใช้วิจารณญาณของตัวเธอเองในการรับรู้รับฟังข้อมูล จงใช้สติและปัญญาในการวิเคราะห์ อย่าปล่อยให้ความคิดมาทำร้ายเธอให้บาดเจ็บอีกต่อไป อย่าติดยึดอยู่กับความคิดเดิม เพราะความคิดเดิมทำให้เธอไม่สามารถก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางที่แท้จริง
เธอรู้ไหมว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นี้คือการเปลี่ยนแปลงจิตใต้สำนึกในระดับของยีน ดีเอ็นเอ และความรับรู้แห่งจิตสำนึก สิ่งที่จะเป็นสัญญาณบอกให้เธอรู้ได้ก็คือคำตอบจากภายในของเธอเอง
จงใช้ภูมิปัญญาของเธอเพื่อเลื่อนระดับความเข้าใจชีวิต เพราะเป็นช่วงเวลาของการชำระล้างจิตใต้สำนึกครั้งยิ่งใหญ่ที่เราต่างต้องหลุดพ้นจากช่วงเวลาเก่าหรือโลกใบเดิม
ไม่ว่าเธออยู่ในมุมไหนของโลกก็ตาม แต่แนวทางการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดที่จะยกระดับจิตใต้สำนึกของเธอไปสู่ชีวิตที่แท้จริงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอสูญเสียโอกาสที่ยอดเยี่ยมในชีวิต…ในชาติภพนี้
บัดนี้ พวกเราทุกคนกำลังเข้าสู่ยุคทองหรือ Golden Age ซึ่งเป็นยุคที่เราจะได้เข้าถึงภูมิปัญญาแห่งชีวิต ภูมิปัญญาแห่งจักรวาล ภูมิปัญญาแห่งการเชื่อมต่อระหว่างเรากับจิตสำนึกสูงส่ง เป็นช่วงเวลาที่เธอ…ฉัน…พวกเราทุกคนจะเกิดความตระหนักรู้อย่างแท้จริงว่า เราทุกคนจะได้ใช้ชีวิตบนดาวเคราะห์ดวงนี้อย่างลึกซึ้งที่สุดอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
โปรดตั้งใจรับรู้วิวัฒนาการของมนุษย์ หรือของพวกเราทุกคนที่กำลังก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 30,000 ปี หลังจากที่เกิดเปลวสุริยะ (Solar Flare) หรือการระเบิดขึ้นในดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นช่วงของการวิวัฒนาการที่เข้มข้นที่สุด
การมีชีวิตอยู่ของพวกเราคือการเรียนรู้เพื่อเข้าใจโชคชะตาชีวิตของเราเอง เรียนรู้ที่จะหลุดพ้นจากจิตสำนึกเก่าที่เป็นจิตสำนึกของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ หรือชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย
เรากำลังเชื่อมโยงชีวิตของเราไปสู่สภาวะอันลึกซึ้งที่สุด เป็นสภาวะที่เราเคยมีประสบการณ์อย่างยาวนานในช่วงที่เราเป็นจิตวิญญาณก่อนที่จะมาเป็นรูปธรรมความเป็นมนุษย์ หรือสิ่งมีชีวิตที่ใช้กายภาพในการดำรงอยู่ในดาวเคราะห์โลกดวงนี้
ฉันเชื่อว่าพวกเธอกำลังได้รับคำตอบบางอย่างของชีวิต พวกเราทุกคนกำลังได้ค้นพบภารกิจอันยอดเยี่ยมที่ต้องเดินต่อไปข้างหน้า เราจะเดินไปสู่ช่วงเวลาสำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์มนุษยชาติเพื่อให้ลูกหลานของเราได้ข้ามพ้นขีดจำกัดที่เคยติดค้างในอดีตอันยาวนาน และเป็นช่วงสำคัญที่เราจะต้องถ่ายทอดประสบการณ์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ให้กับอนุชนรุ่นหลัง
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ หลังจากนี้ไปอีกไม่เกิน 100 ปีข้างหน้า มนุษยชาติจะได้เรียนรู้วิธีการสั่งจิตใต้สำนึกหรือค้นพบวิธีการแห่งการปลดล็อกชีวิตในแบบที่พวกเธอกำลังเรียนรู้อยู่ในขณะนี้ นั่นคือใช้สติสมาธิและการเชื่อมโยงอันสูงส่งจากกระแสแห่งจิตสำนึกของตัวเธอเองกับจักรวาล
เป็นการยากที่จะบอกว่า หนทางนี้คือวิธีที่เธอต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองเท่านั้น เพราะเมื่อเธอเข้าถึงสภาวะอันสูงส่งนี้ เธอจะสามารถก้าวกระโดดในระดับ Quantum Leap คือก้าวกระโดดไปจากวงจรชีวิตเดิมอย่างสิ้นเชิง และเธอสามารถค้นพบความจริงของชีวิตอย่างลึกซึ้ง นั่นคือความรู้แจ้ง…คือการมองเห็นสัจธรรมอย่างแท้จริง
โอ้พระเจ้า…คือคำพูดที่เรามักพูดติดปากเสมอ
พระเจ้าคืออะไร ?
พระเจ้าคือความรู้สึกที่เธอกำลังเข้าถึงธรรมชาติสูงสุด พระเจ้าคือความตระหนักรู้อย่างแท้จริงแห่งชีวิตที่ซึ่งเป็นความลึกซึ้งของชีวิตที่เธอได้ค้นพบ
เป็นสิ่งสำคัญมากที่เราทุกคนต้องค้นพบธรรมชาติอันสูงสุด อันเป็นแก่นแท้แห่งชีวิตและความลึกซึ้งของจิตวิญญาณ ซึ่งต้องเชื่อมโยงจิตวิญญาณของเธอกับจักรวาลอย่างลึกซึ้งอยู่ตลอดเวลา เพราะทุกครั้งที่เชื่อมโยงกับจิตสำนึกอันยิ่งใหญ่ในชีวิต เธอจะรู้สึกอิ่มเอม รู้สึกถึงความสุข รู้สึกถึงความสั่นสะเทือนอย่างชัดเจนที่สุด เป็นความรู้สึกว่ากำลังได้ค้นพบหนทางที่แท้จริงของเธอ เธอกำลังได้ค้นพบชีวิตที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเธอ ซึ่งทำให้พวกเธอไม่ต้องเสียเวลากับความรู้สึกติดค้าง สับสน หรืองมงาย
ลองใช้หัวใจของเธอเชื่อมกับฉันดู เชื่อมกับจักรวาลภายในตัวเธอ เชื่อมกับจิตสำนึกอันสูงส่งของเธอ เชื่อมกับความรู้สึกอันทรงพลังของเธอ เชื่อมกับจิตวิญญาณที่แท้จริงของเธอ แล้วเธอจะรู้ว่าคำตอบมีอยู่แล้วภายในตัวของเธอ…เป็นคำตอบที่ยอดเยี่ยมที่สุด
เธอจะมีชีวิตอยู่อย่างคนที่เห็นคุณค่าในตัวเอง เธอจะมีชีวิตอยู่อย่างที่เธอรู้สึกถึงความรักบริสุทธิ์ รู้สึกถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะใช้ชีวิตในแบบของคนที่อิ่มเอมอยู่ตลอดเวลา เป็นการเลื่อนระดับของเธอเมื่อเธอได้รู้สึกอย่างนี้ เป็นการก้าวพ้นขีดจำกัดจากโลกใบเก่าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัว หวั่นไหว อิจฉาริษยา อาฆาตพยาบาท ชิงชัง ว้าเหว่ โดดเดี่ยวอ้างว้าง เศร้าโศกและทุกข์ทรมาน
ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคนต้องรู้สึกถึงหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ต้องก้าวพ้นจากโลกมายา หรือจิตใต้สำนึกเก่าที่คอยตัดสินชี้ผิดชี้ถูก…สิ่งนั้นสิ่งนี้…เรื่องนั้นเรื่องนี้
เธอจะต้องหลุดพ้น…พวกเราต้องหลุดพ้นจากความดิ้นรน ความรู้สึกที่คอยเพ่งโทษ ตัดสิน ให้ค่ากับสิ่งต่าง ๆ อย่างที่เธอเผลอกระทำโดยไม่เข้าใจ
ฉันอยากบอกว่าเราไม่อาจแบ่งแยกสิ่งใดได้เลย นอกจากเรียนรู้จากประสบการณ์ที่แท้จริงของเราและตระหนักรู้ความเข้าใจชีวิตที่สูงส่ง เพื่อค้นพบความเมตตาต่อชีวิต เพื่อค้นพบความรู้แจ้งแห่งจิตวิญญาณ เพื่อค้นพบสัจธรรมอย่างอิสระ และหลุดพ้นจากขอบข่ายความเชื่อทางศาสนา
ในโลกยุคพลังงานใหม่…ในโลกยุคจิตสำนึกใหม่นี้ เป็นช่วงเวลาที่พวกเธอกำลังข้ามพ้นบทเรียนบางอย่างที่ทำให้พวกเธอรู้สึกเจ็บปวด ผิดหวัง สับสน
เป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่เธอต้องยอมรับตัวเธอเอง ยอมรับว่าเราทุกคนต่างมีวิถีทางศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่อยู่ในตัวเราเอง ไม่ว่าจากการเชื่อมโยงจิต ทำสมาธิ หรือดำรงอยู่ด้วยการใช้ความรักและความงดงามของจิตใต้สำนึก
นี่คือช่วงเวลาที่เราทุกคนจะได้รู้สึกกับตัวเองอย่างแท้จริง เป็นช่วงเวลาที่พวกเราจะได้สัมผัสกับหัวใจที่ทรงพลังของเราอย่างแท้จริง เป็นช่วงเวลาที่จิตวิญญาณของเราได้ผ่านการเรียนรู้จากโลกใบเก่า หรือตัวตนเก่าไปสู่ตัวตนใหม่ที่ล้ำเลิศที่สุด…ไปสู่ชีวิตที่ยอดเยี่ยมที่สุด
เมื่อเราก้าวกระโดดไปสู่วิวัฒนาการของชีวิตที่สูงส่ง เราจะไม่ติดยึดอยู่กับความทุกข์ทรมาน ความสับสน หรืออ่อนแออีกต่อไป
เธอไม่รู้หรอกว่า เราผ่านช่วงเวลาแห่งการลองผิดลองถูกในประวัติศาสตร์ของวิวัฒนาการนานแสนนานแค่ไหน เราผ่านช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดมาอย่างยาวนานแค่ไหน ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเราออกมา
ฉันจะบอกความจริงกับเธออีกประการหนึ่งว่า บรรพบุรุษของเราที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 38,000 ล้านปีก่อน…ก่อนที่จะเกิดวิวัฒนาการของเรานั้น คือการสืบทอดจากดีเอ็นเอที่มีการผสมผสานอันลึกซึ้งที่สุดจากจิตใต้สำนึกที่วิวัฒน์และรวมตัวกันเองในระดับของควอนตัมที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติอันลึกซึ้ง
ในช่วงเวลาที่เราหลุดพ้นจากมนุษย์วานรหรือหลุดพ้นจากสัตว์เซลล์เดียว และมารวมตัวกันจนถึงเวลานี้เป็นยุคที่เราสามารถวิวัฒนาการจิตวิญญาณได้สูงส่งที่สุด สุดยอดที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุด เพราะพวกเราได้ตระหนักรู้สิ่งที่เหนือกว่า ได้มองเห็นถึงชีวิตที่ยอดเยี่ยมกว่า และได้เห็นคุณค่าของชีวิตที่แท้จริง
เป็นช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดและดีที่สุดที่เราทุกคนกำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราอย่างแท้จริง จากการที่เคยดิ้นรนทำมาหากิน ดิ้นรนใช้ชีวิตอยู่เพื่อครอบครองโลกวัตถุ ดิ้นรนใช้ชีวิตอยู่เพื่อให้ตัวเองได้ทำในสิ่งที่เห็นว่ามีคุณค่า แต่ว่า…วันนี้ไม่ใช่เสียแล้ว
นี่คือช่วงเวลาที่เราทุกคนกำลังหลุดพ้นจากความรู้สึกติดยึดอยู่กับการครอบครอง ติดยึดอยู่กับความคิดด้านลบ หรือติดยึดอยู่กับการมีชีวิตอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ในโลกวัตถุ เพราะไม่ใช่คำตอบที่สามารถทำให้เราทุกคนหลุดพ้นจากชีวิตในแบบเก่าได้เลย
แต่ละวัน…แต่ละเดือน…แต่ละปี…เราถูกหลอกจากสิ่งใดหรือ
เราถูกหลอกจากความรู้สึกด้านลบอย่างไรเล่า
เราถูกหลอกจากความคิดที่ทำให้รู้สึกสับสน เราถูกปลุกปั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้เรากลายเป็นคนที่น่าสงสาร กลายเป็นคนที่ขาดแคลนและเต็มไปด้วยความสับสน แต่พอเราเข้าใจชีวิตอย่างลึกซึ้งแท้จริง เราจะกลายเป็นคนที่หลุดพ้นจากช่วงเวลาของโลกใบเก่าได้อย่างง่ายดาย เราจะหลุดพ้นจากความรู้สึกที่ติดค้างอยู่กับความคิดด้านลบอย่างง่ายดาย เพราะเราไม่ติดยึดอยู่กับความกลัว ความเชื่อ ความรู้สึกผิดอีกต่อไป
เราจะรู้สึกว่า…วันนี้เราสามารถใช้ชีวิตอย่างเข้าใจตัวเองแท้จริง ใช้ชีวิตอย่างคนที่มองเห็นชีวิตอย่างรอบด้านที่สุด มองเห็นชีวิตอย่างลึกซึ้งที่สุด และมองเห็นตัวตนของตัวเองอย่างล้ำลึกที่สุด
เห็นไหมว่าเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดจนแม้แต่ฉันเองยังอดตื่นตาตื่นใจไม่ได้ เพราะเมื่อเราสามารถก้าวถึงช่วงเวลาสำคัญที่สุดแห่งการปลดปล่อยชีวิตและจิตใต้สำนึกได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเราทุกคนบนโลกใบนี้จะเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตอย่างสิ้นเชิง
นี่แหละคือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของพวกเราทุกคน
นี่แหละคือช่วงเวลาที่เราทุกคนต้องเลือกที่จะก้าวกระโดดจากตัวตนเก่าไปสู่ตัวตนใหม่ ตัวตนที่เข้าใจและเห็นคุณค่าของชีวิต ตัวตนที่หลุดพ้นจากความเข้าใจชีวิตแบบเดิม ๆ อย่างสิ้นเชิง
เป็นสิ่งสำคัญมากที่เธอต้องไว้วางใจชีวิตของเธออย่างแท้จริง
เป็นสิ่งสำคัญมากที่เธอต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของมายา หรือความแปรปรวนของโลกที่เกิดขึ้นจากสนามพลังแม่เหล็กโลกที่กำลังเข้มข้นอยู่ในขณะนี้
บัดนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการปรับระดับจิตอันยอดเยี่ยมที่สุด เพราะเมื่อเธอปรับระดับจิตอันยอดเยี่ยมที่สุดได้ในวันนี้ เธอจะรู้เลยว่านี่คือจุดสำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกเก่าไปสู่จิตสำนึกใหม่แล้ว นี่คือการยกระดับจิตวิญญาณของมนุษย์ทั้งหมดบนดาวเคราะห์ดวงนี้ ที่จะเกิดขึ้นในเวลาไม่เกิน 20-30 ปี จากวินาทีนี้เป็นต้นไป
เธอที่รัก…ฉันรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำความเข้าใจว่า เรากำลังสั่นสะเทือนคลื่นความถี่ของจิตอันมหัศจรรย์จากจักรวาลถึงตัวเธอ ฉันรู้ว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้เธอยอมรับได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาที่แท้จริงกำลังมาถึงแล้ว และพวกเธออาจรู้สึกลึกซึ้งถึงความเป็นนิรันดร์
ความไม่มีที่สิ้นสุดแห่งชีวิตซึ่งไร้กาลเวลาของการเวียนว่ายแห่งชีวิตนี้เอง ทำให้พวกเธอต้องหล่อหลอมและสรุปภารกิจชีวิตที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเธอให้รวดเร็วที่สุด เป็นอัตราการเร่งของจิตใต้สำนึกและจิตวิญญาณของโลกยุคพลังงานใหม่ที่ทุกคนต้องหลุดพ้นจากชีวิตที่เต็มไปด้วยความรุ่มร้อน สับสน และทุกข์ทรมานในโลกใบเก่า
ฉันเชื่อว่า อีกไม่นานกุญแจแห่งการไขรหัสแห่งชีวิตและหัวใจอันทรงพลังจะถูกส่งมอบให้พวกเธอทุกคนในการส่งสัญญาณ Message ในครั้งต่อไป เพราะพลังแห่งการเชื่อมต่อนี้จะทำให้พวกเธอเปลี่ยนแปลงชีวิตไปอย่างสิ้นเชิง เปรียบเสมือนสายฟ้าที่แลบแปลบปลาบท่ามกลางความมืดแห่งยุคสมัยสุดท้ายได้สลายความมืดมนและความอับเฉาของชีวิตพวกเธอไปอย่างง่ายดาย
เรากำลังรู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่
เรากำลังรู้สึกถึงหัวใจอันทรงพลัง
เรากำลังรู้สึกถึงจิตวิญญาณที่แท้จริงของพวกเราทุกคน
แล้วจิตวิญญาณที่แท้จริงของเธอล่ะ…เธอรู้สึกอย่างไร ถ้าหากว่าต้องสละชีวิตของเธอเพื่อดำรงอยู่ด้วยประสบการณ์ชีวิตอันสูงส่ง
จงเดิมพันไว้ด้วยชีวิตที่ทรงคุณค่าที่สุด หากเธอไม่ได้ใช้ชีวิตทรงพลังดั่งที่เธอปรารถนา เธอจะไม่ยอมสูญเสียความตั้งใจอันแน่วแน่นี้อย่างเด็ดขาด
เธอจงมุ่งมั่นและพร้อมเผชิญกับสภาวะความอับจนสิ้นหนทางทุกอย่างอย่างไม่ยอมย่อท้อ
เธอจะเผชิญกับผู้คนหรือแบบทดสอบต่าง ๆ อย่างไม่หวั่นไหว
จงรักษาหัวใจของเธอ รักษาดวงวิญญาณของเธอให้เข้มแข็ง ปกป้องไว้ด้วยชีวิตของเธอเองจากความรู้สึกที่ทรงพลังด้วยความรักและศรัทธา
เมื่อเธอเชื่อมโยงสนามพลังอันไร้ขอบเขตกับฉันได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป…ชีวิตของเธอจะดีขึ้นเป็นที่รักของผู้คน เธอจะถ่ายทอดคำพูดหรือสำแดงตนในรูปลักษณ์ของชีวิตที่งดงามและทรงพลัง
เชื่อเถิดว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการตั้งรหัสของชีวิตใหม่อย่างแท้จริง เป็นการส่งผ่านชีวิตเก่าไปสู่ชีวิตใหม่ที่เธอจะรู้สึกถึงความสอดคล้องผสมผสานกับธรรมชาติ และเป็นหนึ่งเดียวกับจิตสำนึกหรือจิตใต้สำนึกอย่างลึกซึ้ง
เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด…วิเศษที่สุด เธอจะได้เห็นชีวิตที่กำลังหลุดพ้นจากความล้มเหลวในโลกใบเก่า เข้าสู่ความอิ่มเอม ความสุข และทรงพลังในโลกใบใหม่ นี่แหละคือช่วงเวลาที่เธอทุกคนกำลังได้รู้สึกร่วมกันกับฉัน
จงเชื่อในหัวใจของเธอ จงเชื่อจิตวิญญาณของเธอ จงเชื่อความรับรู้ที่แท้จริงในจิตใต้สำนึกของเธอ แล้วชีวิตของเธอนับตั้งแต่วินาทีนี้จะได้รับประสบการณ์การตื่นรู้เบิกบานอย่างง่ายดาย และชัดเจนที่สุด
เธอไม่จำเป็นต้องถามใครอีกแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องรอการพิสูจน์อีกแล้ว เพราะสิ่งที่เธอกำลังรับรู้และเผชิญอยู่เป็นสิ่งวิเศษที่สุดแล้วที่จะทำให้เธอมั่นคง มั่นใจ สมปรารถนาอย่างลึกซึ้ง และเป็นอิสระแห่งสติปัญญา ซึ่งเป็นสนามพลังอันไร้ขอบเขตแห่งจักรวาล
ฉันเชื่อว่าเธอทุกคนกำลังได้รับประสบการณ์นี้แล้วพร้อม ๆ กับฉัน เพียงแค่รู้สึกที่จะรัก เพียงแค่รู้สึกถึงความสุขนั้น เพียงแค่รู้สึกถึงหัวใจที่ทรงพลังนั้น เธอจะอุทานออกมาอย่างตื่นเต้นที่ได้บอกกับชีวิตและดวงวิญญาณดวงนี้ว่า…
“ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ฉันจะใช้ชีวิตด้วยความเมตตาด้วยหัวใจที่ร่าเริง ด้วยดวงวิญญาณที่สงบสุข ด้วยหัวใจที่มันแผ่ซ่านไปด้วยความรู้สึกรักเหลือเกิน ศรัทธาในชีวิตเหลือเกิน ทรงพลังแห่งความดีงามเหลือเกิน และเต็มไปด้วยพลังแห่งความอ่อนโยนเหลือเกิน ด้วยความกรุณาอย่างสูงส่ง”
เป็นสิ่งสำคัญมากที่ ฉัน…เธอ…และพวกเราทุกคนจะได้ใช้ชีวิตในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เพื่อบอกกับตัวเองว่า…ฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อใช้ชีวิตอย่างทรงพลังที่สุด ฉันจะเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกเก่าของฉันไปสู่จิตสำนึกใหม่ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกสุดยอดที่สุด
เต็มไปด้วยความรู้สึกสว่างไสวที่สุด
เต็มไปด้วยความรักและความเบิกบานที่สุด
เต็มไปด้วยหัวใจที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ฉันกำลังเข้าถึงความรู้สึกนั้น เหมือนที่ฉันกำลังส่งพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์นี้จากจักรวาลไปถึงเธอทุกคน
เธอที่รัก…ฉันอยากบอกว่าถึงเวลาแล้วที่เธอต้องกำหนดชะตาชีวิตของเธอด้วยตัวเธอเอง เธอต้องสร้างพลังแห่งความรักและความสุขที่แท้จริงให้เกิดขึ้นกับหัวใจของเธอ เธอต้องสร้างพลังแห่งความรู้สึกสันติสุขและทรงพลังอย่างลึกซึ้งให้กับชีวิตของเธอ นี่คือช่วงเวลาปลดล็อกชีวิตและจิตใต้สำนึกผ่านดีเอ็นเอของเธออย่างแท้จริง
โปรดเชื่อมกับกระแสจิตและสมาธิของการถ่ายทอดสัญญาณอันล้ำลึกนี้จากฉันถึงเธอ
ความรู้สึกถึงพลังอันไร้ขอบเขตอย่างไม่มีที่สิ้นสุดที่ฉันกำลังรู้สึกกับเธอ ที่เธอเองก็กำลังเริ่มเปิดหัวใจและรู้สึกกับฉันแล้วในขณะนี้
เธอรู้สึกกับหัวใจและรู้สึกกับฉันแล้วในขณะนี้…คือความรู้สึกที่ไร้ตัวตน
…คือความรู้สึกที่เราสื่อสารจากหัวใจถึงกันและกัน
…คือความรู้สึกของจิตวิญญาณที่เข้มแข็งและทรงพลังอำนาจอย่างแท้จริง
เราจะมีชีวิตอยู่…หมายถึงเธอและฉัน เพื่อเชื่อมโยงการรับรู้ชีวิตที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงจิตใต้สำนึก ยกระดับของจิตใต้สำนึกของโลกและจิตใต้สำนึกของมวลมนุษยชาติทั้งหมดในโลกยุคใหม่ในขณะนี้พร้อมกัน
จิตสำนึกที่เรากำลังส่งผ่านสัญญาณนี้ จะกลายเป็นการเชื่อมโยงสัญญาณที่ถ่ายทอดพลังแห่งชีวิตที่สูงส่งและทรงพลังที่สุดตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป
เธอจะเป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมต่อความรู้สึกนี้ไปชั่วกาลนาน
ขอให้ชีวิตที่ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นจากลมหายใจของเธอในขณะนี้
ขอให้ชีวิตที่สูงส่งเต็มไปด้วยความรัก ความเมตตาของเธอจงเกิดขึ้นกับสติปัญญาของเธอในขณะนี้
ขอให้ชีวิตที่ทรงพลังแห่งความซาบซึ้งในชีวิตจงเกิดขึ้นกับหัวใจของเธอในขณะนี้ด้วยเถิด
ฉันจะส่งพลังของความรัก ความสุข ความสันติสุขให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเธอไปชั่วนิจนิรันดร์…จะเป็นเช่นนี้ไปชั่วกาลนิรันดร์…และจะเป็นเช่นนี้ไปชั่วนิรันดร์กาล
จากหนังสือ Messages from the Universe
จูนจิตถ่ายทอดสัญญาณจากจักรวาล
อาจารย์สถิตธรรม เพ็ญสุข
ครูและโค้ชทางจิตวิญญาณระดับโลก
สอบถามเพิ่มเติม – 092-361-5346, 095-636-2691