จิตใต้สำนึก กับการจูนกระแสจิตเพื่อสร้างชีวิตใหม่
จิตใต้สำนึก ที่ฝึกดีแล้ว ช่วยผ่อนแรงให้ชีวิตสำเร็จอย่างน่าทึ่ง ยุคนี้มีิวิธีการฝึกจิตที่ง่ายขึ้น ฝึกที่บ้านได้ง่าย ๆ กับครูทางจิตวิญญาณยุคใหม่ อ.สถิตธรรม เพ็ญสุข
- บทความนี้ให้ความรู้สำหรับผู้สนใจฝึกฝนจิตเพื่อความสำเร็จในระดับเบื้องต้น
- เป็นฐานสำคัญสำหรับการใช้บทเรียนออนไลน์ เพื่อพัฒนาจิต
- อ่านง่าย เข้าใจเร็ว ควรฝึกต่อเนื่องด้วยการฟังกับ LIVE อ.สถิตธรรม เพ็ญสุข อย่างน้อย 7 วันขึ้นไป
ทำไม ? ต้องฝึกจิตใต้สำนึก
จิตโดยธรรมชาติแท้จริง มีศักยภาพเช่นเดียวกับจิตจักรวาล มีพลังเนรมิตเช่นเดียวกับอนุภาคของพระเจ้า
เพียงแต่ว่า พอจิตมาอาศัยในร่างกายมนุษย์และผ่านประสบการณ์ชีวิตจนนับไม่ถ้วน ทำให้เกิดความเชื่อผิด ๆ ไม่อำนวยให้ชีวิตมีความสุข
ความเชื่อผิด ๆ เหล่านั้นเอง ที่คอยบั่นทอนให้พลังของจิตลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย!
เมื่อพลังของจิตลดน้อยลง มนุษย์ส่วนใหญ่หันไปใช้พลังความคิดแทน ผลที่เกิดขึ้นคือความยากลำบาก ขัดสนและขาดแคลน
เพราะความคิดที่เราสร้างขึ้น มันเป็นความพยายามคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จ ร่ำรวย (ฉันเป็นคนเก่งนะ) แต่ตัวจิตใต้สำนึกที่มีพลังมหาศาล เป็นตัวสร้างชะตาชีวิต…กลับรู้สึกว่าตัวฉัน(ที่แท้จริง) ด้อยคุณค่า ไร้ความเก่ง และไม่มีศักยภาพ
การฝึกจิต เป้าหมายหลักที่เราต้องการ คือ…ให้ตัวจิตกลับไปรู้สึกถึงศักยภาพเดิมแท้ของตัวเขา ว่าทำได้ทุกอย่างที่ใจปรารถนาและตั้งมั่นจะให้สำเร็จ
- สนใจโค้ชส่วนตัว นัดเข้าพบกับอาจารย์สถิตธรรม เพ็ญสุข 20 นาที เพื่อทราบรายละเอียดก่อนตัดสินใจ goo.gl/forms/CSu85GuUhBcKfWAf1
ระหว่างความคิดกับความรู้สึก ควรเปลี่ยนสิ่งใดก่อน
“เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน” นี่ก็เป็นเรื่องจริง เพียงแต่..การพยายามคิดบวกในขณะที่จิตเศร้าหมองนั้น…ยากเหลือเกิน
คนที่มีหนี้ 10 ล้าน บอกให้พยายามคิดบวก คิดอย่างไรก็คงไม่รู้สึกบวก เพราะมองไม่เห็นหนทางว่าชีวิตจะดีขึ้นได้อย่างไร
เพราะจิตใต้สำนึกไปติดหล่มความเชื่อว่า ฉันไร้ความสามารถ ไม่เก่ง และชีวิตต้องใช้กรรมเช่นนี้ตลอดไป
แต่…มีอีกวิธีการหนึ่ง เหมือนเส้นเลือดหัวใจอุดตัน เราก็ทำ บายพาส สร้างเส้นทางลำเลียงเลือดใหม่…ก้าวข้ามผ่านช่วงที่อุดตันนั้นไปเลย
ระบบ Jumping จูนกระแสจิต..เปลี่ยนความคิดที่จิตใต้สำนึก
ระบบของจิตก็ทำได้ในแบบเดียวกัน ถ้าความคิดของเราอุดตัน จะพยายามคิดให้มีความสุข คิดบวกอย่างไรก็ไม่ได้ผลสักที
วิธีแก้ไขคือ….เราต้องสร้างเส้นทางสื่อสารใหม่ ด้วยการ Jumping ผ่านระบบสมองและความคิด…เข้าไปหาตัวจิตใต้สำนึกเลย
เข้าไปสื่อสารและตั้งโปรแกรมใหม่ให้กับจิตได้เรียนรู้ เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่า แท้ที่จริงแล้วฉันเก่งและมีศักยภาพมากกว่าที่ตัวเองรู้เสียอีก
ถ้าจิตใต้สำนึกของคุณไม่สะสมความรู้สึกด้านลบมากเกินไป จะเริ่มเปลี่ยนที่ความคิดก่อนก็ได้
เพราะจิตมีกำลังมากพอที่จะเปลี่ยนเส้นทางความคิดได้
แต่ถ้า..จิตของคุณเต็มไปด้วยความทุกข์ การพยายามคิดบวกก็คงไม่ได้ผลเร็วอย่างที่ต้องการ
ทางแก้ก็คือ หันไปที่ตัวจิต เข้าไปสื่อสารกับจิตใต้สำนึกให้ได้ เพื่อสร้างความเชื่อและรู้สึกมีความสุขให้เร็วที่สุด
ยิ่งปล่อยให้จิตเศร้าหมองไปเรื่อย ๆ ยิ่งดึงดูดเรื่องแย่ ๆ เข้ามาสู่ชีวิตไม่จบสิ้น จึงยากที่จะประสบความสำเร็จ
ภาพในจิตใต้สำนึกที่ชัดเจน ช่วยสร้างเกิดความจริงใหม่เพื่อเปลี่ยนชีวิต
เป้าหมายของการฝึกจิตในขั้นตอนแรก ก็คือ ให้จิตรู้สึกมีความสุขมากที่สุด
จากนั้นสิ่งที่เราปรารถนาและนึกถึงด้วยความสุขนั้น..จิตใต้สำนึกจึงจะสร้างภาพนั้นขึ้นมาได้
ความสุขจึงเป็นฐานสำคัญที่สุดในการฝึกฝนจิต
ทั้งนี้ ผู้ฝึกฝนในระดับแรก จะแยกไม่ออกระหว่างภาพจากจิตกับภาพจากความคิด ภาพที่เกิดขึ้นมักจะเป็นภาพจากความคิดที่สร้างขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง
เหตุที่ฝึกไปไม่ถึงการสร้างภาพจากจิตใต้สำนึก เพราะต้องใช้กำลังสมาธิจากจิตขั้นสูงมาก
เมื่อจิตมีความสุขเป็นฐานที่มั่นคงแล้ว ในขั้นต่อไปนั้น เราจะเพิ่มระดับความรู้สึกสมจริงสมจังกับภาพในจิตใต้สำนึก ตามระดับความคมชัดของภาพ (คล้ายภาพในความฝัน)
ภาพในจิตที่สมจริงมาก ๆ ทำให้เกิดความรู้สึกราวกับว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในชีวิตจริง ๆ
เหมือนตอนที่เรานอนหลับแล้วฝันว่าได้เงินสิบล้าน ชั่วเวลาที่ตื่นขึ้นมา เรายังรู้สึกดีใจต่อเนื่องมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นในความฝัน
แต่พอเกิดความคิดขึ้นมา..เราก็เลือกเชื่อว่าความรู้สึกจากความฝันไม่ใช่เรื่องจริง
กระแสจิตที่เชื่อมโยงปัจจุบันกับอนาคตที่จะร่ำรวย เลยถูกตัดสะบั้นตรงที่เราเลือกไม่เชื่อ 100% ตามความรู้สึกที่เกิดขึ้น
บทสรุป
- เส้นทางชีวิตของมนุษย์ อยู่ที่ภาพของจิตใต้สำนึก อันก่อให้เกิดความเชื่อและรู้สึกว่าคู่ควรกับความสำเร็จ
- หากเราสื่อสารกับจิตใต้สำนึกได้ จะสามารถสื่อสารให้จิตเรียนรู้การสร้างภาพใหม่ ๆ ที่เราปรารถนาได้
- คนส่วนมากมีความคิดลบมากเกินกว่าจะสร้างภาพในจิตที่มีความสุขได้ชัดเจน ชีวิตจึงลำบากมากกว่าสบาย
- การสร้างภาพในจิตใต้สำนึก ใช้กำลังสมาธิขั้นสูง คนที่ทำงานและไม่ใช่นับบวชแทบไม่สามารถเข้าถึงวิธีการกำหนดภาพที่ต้องการในจิตใต้สำนึก
- การโค้ชจูนกระแสจิต ช่วยให้เราไม่ต้องสละเวลาไปฝึกสมาธิให้ได้ขั้นสูง อ.สถิตธรรม เพ็ญสุข ใข้ศาสตร์จูนคลื่นความถี่ของจิตเหนือสำนึกที่ฉลาดที่สุด เข้าไปจูนให้จิตใต้สำนึกของเราเรียนรู้วิธีใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จเร็วที่สุด