จิตวิทยาการพัฒนาตนเองยุคใหม่
เส้นทางการเรียนรู้ของโลกยุคใหม่ในขณะนี้ ล้วนมุ่งเข้ามาสู่การเรียนรู้ภายในตนเองเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านในให้เจิดจรัส แม้นแต่การทำธุรกิจให้ก้าวหน้าประสบความสำเร็จ ก็ต้องหันเข้ามาศึกษาจิตใจของเรามากขึ้น
วันนี้บริษัทชั้นนำอย่างกูเกิ้ลและอีกหลายแห่งประกาศไม่สนใจปริญญาบัตร เขาจะรับคนเข้าทำงานโดยดูจากประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมา ว่าสามารถเข้ามาพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้ากว่าเดิมได้หรือไม่
วิถีทางรอดสำหรับมนุษย์ยุคใหม่ หนีไม่พ้นเรื่องการค้นหาตัวเองให้พบเร็วที่สุด จะได้ลงมือสร้างผลงานและความสำเร็จเพื่อไปต่อยอดกับบริษัทชั้นนำหรือสร้างธุรกิจของตัวเอง หากเราไม่เข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ ก็อย่าหวังว่าเราจะเข้าใจผู้อื่น
ถามว่าทำไมเราต้องเข้าใจผู้อื่นด้วย ก็เพราะ…วิถีแห่งความเข้าใจความต้องการของผู้อื่น มันคือวิถีแห่งการตลาดในยุค 5.0 นั่นเอง
#บทบาทของครูทางจิตวิญญาณยุคใหม่ต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
ผู้คนในยุคนี้มีความเชื่อทางลัทธิหรือศาสนาลดลงทั้งในยุโรป อเมริกา หรือเอเชีย แต่การพัฒนาตนเองผ่านจิตวิทยาสมัยใหม่ ได้ให้โอกาสพวกเราค้นพบวิถีการใช้ชีวิตในแบบที่สอดคล้องกับสัมคมปัจจุบันมากขึ้น
นับแต่สละเส้นทางสายธุรกิจเมื่อ 20 กว่าปีก่อน อ.สถิตธรรม เพ็ญสุข อุทิศตัวเองเพื่อค้นคว้าวิธีกุมชะตาชีวิตด้วยตนเอง ผ่านรความความรู้สึกเป็นคนใหม่อย่างแท้จริง
วิธีการเดียวที่จะได้ผล คือการส่งผ่านข้อมูล เป้าหมายชีวิตและความปรารถนาของแต่ละคน จากสมองและความคิด ให้เลื่อนลงไปสู่จิตใต้สำนึก เหมือนเมื่อครั้งที่เราเป็นเด็กและจิตใต้สำนึกเปิดรับการเรียนรู้ได้อย่างง่ายดาย
ผู้เขียนหยิบเนื้อหาบางส่วนที่อาจารย์ท่านเขียนไว้ในหนังสือ มาอธิบายงานและหน้าที่ความเป็นครูทางจิตวิญญาณของท่าน เพื่อให้ผู้อ่านทราบว่างานของท่านสามารถช่วยให้ชีวิตพวกเราดีขึ้นและมีความสุขได้อย่างไร
.
#ความหมายของครูทางจิตวิญญาณยุคใหม่
ในงาน The Spiritual Jumping ผมวางตำแหน่งตัวเองว่าเป็น The Spiritual Teacher
แต่ผมก็ใช้ความสามารถหลักในการทำงานถึง 3 บทบาทด้วยกัน
ดร.เวย์น เป็นครูทางจิตวิญญาณที่สอนให้มวลมนุษย์ได้พัฒนาจิตวิญญาณของตัวเองให้พัฒนาเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ดร.เวย์นก็ Channeling ข้อมูลจากจักรวาลลงมาโดยที่ท่านไม่รู้ตัว
ในขณะที่ Sonia Choquette นั้นใช้บทบาททางด้าน Psychic (นักพลังจิต) อย่างชัดเจน
ส่วนไดอาน่า คูเปอร์ และ ดอรีล เวอร์เจอร์ นั้นวางตำแหน่งตัวเองเป็น Channeler (ผู้ที่สามารถเชื่อมกระแสจิตกับจักรวาลหรือจิตชั้นสูง) เน้นด้าน Psychic และที่สำคัญเป็นไลท์เวิร์คเกอร์อย่างชัดเจน
ส่วนบทบาทของครูทางจิตวิญญาณหรือโค้ชพัฒนาชีวิตนั้น เป็นผลพลอยได้ทางอ้อมที่ผู้เข้าพบเธอจะได้รับ
ท่านทั้งหลายที่กล่าวมานั้น อาจจะมีบทบาทครูทางจิตวิญญาณอยู่บ้างแต่ไม่ได้มุ่งเน้นการพัฒนาตัวเองแบบเฉพาะเจาะจงเหมือนที่ผมทำ
ผมเคยกล่าวไว้ในหนังสือ โค้ชพลังจิตว่า “ผมไม่ใช่ Life Coach แต่ผมเป็น Channeling Coach สามารถเชื่อมมิติเข้าไปในวงจรจิตหรืออ่านจิตของผู้อื่นได้
ผมสามารถวิเคราะห์ชีวิตของแต่ละคนได้โดยที่ไม่ต้องไปดูประวัติความเป็นมาของบุคคลเหล่านั้น”
Channeling Coaching เปรียบเสมือนการตัดตอนเนื้อร้ายด้วยการยิงเลเซอร์ทะลวงพลังงานกรรม แต่ไม่ใช่การแก้กรรม เพราะกรรมนั้นแก้ไม่ได้ แต่สามารถแปรรูปพลังงานกรรมให้ไปสู่จุดที่ลงตัวที่สุดได้
เหมือนที่ผมได้พูดไว้ในหนังสือ “โค้ชพลังจิต กระบวนการก้าวกระโดดสู่ชีวิตใหม่” ว่า “ผมไม่ได้พูดถึงการแก้กรรม ผมไม่ได้พูดถึงการเบี่ยงกรรม แต่ผมกำลังพูดถึง การก้าวกระโดดของกรรม
.
#กรรมคือกฎแห่งความเป็นจริงข้อหนึ่งของธรรมชาติ
ความหมายเดิมทีของคำว่ากรรม มาจากคำว่า การกระทำ การทำบางสิ่งบางอย่างลงไป(รวมทั้งทางคำพูดและความคิดด้วย )โดยส่วนใหญ่จะต้องมีความรู้สึกบางอย่างที่เชื่อมโยงกับการกระทำในครั้งนั้น เช่น ถ้าทำความดีก็จะเกิดความรู้สึกแช่มชื่นหัวใจว่าเราได้ทำบางสิ่งบางอย่างที่ดีๆลงไป
ถ้าทำความชั่วเราก็จะรู้สึกว่าเราได้กระทำบางอย่างที่ไม่ดีลงไป โดยจิตไร้สำนึกของเราจะบันทึกความรู้สึกในระหว่างที่เราทำกรรมนี้เอาไว้
ความรู้สึกที่ถูกบันทึกไว้นี้ จะฝังอยู่ในจิตส่วนที่ทางพุทธศาสนาเรียกว่า “ภวังคจิต” ซึ่งเป็นจิตที่จะติดตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติ
แม้กายสังขารจะแตกดับและเปลี่ยนรูปไปแล้ว แต่ภวังคจิตหรือส่วนของ The Soul ของเรานั้นมีเพียงหนึ่งเดียวและไม่สูญไปไหน ยังคงเวียนว่ายตายเกิดเปลี่ยนรูปไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้าสู่ความจริงแท้สูงสุด
ตามกฎของไอน์สไตน์ที่ว่า พลังงานไม่สูญหาย เพียงแต่เปลี่ยนรูปไปเท่านั้น
รหัสทางพลังงานซึ่งฝังรากลึกอยู่ในดีเอ็นเอของเรามาตั้งแต่เกิด ประกอบกันจนกลายเป็นตัวเรา ที่มีทั้งรูปร่างหน้าตา บุคลิกลักษณะ พื้นเพครอบครัว ตลอดจนฐานะความเป็นอยู่ตลอดจนถึงความสามารถพิเศษหรือความบกพร่องทางด้านใดก็ตาม
.
ผู้เขียนขอสรุปสิ่งที่อาจารย์ต้องการสื่อสารดังนี้
ชีวิตของเราทุกคนในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะพอใจหรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลของการกระทำจากตัวตนของเราในอดีต ตั้งแต่เมื่อวานนี้ย้อนลงไปจนไม่มีที่สิ้นสุด
ความเชื่อเดิมบอกว่า…เกิดมาใช้กรรม
หากเราเชื่อเช่นนั้น คงไม่สามารถมีอนาคตที่ดี เพราะเส้นทางที่ผ่านมาของชีวิตยาวนานจนเราต้องใช้เวลาเท่ากันเพื่อรับผลของกรรมหรือการกระทำ
หากช่วงเวลาปัจจุบัน เราไม่เข้าใจว่าควรจะใช้ชีวิตอย่างไรเพื่อตัวเราในอนาคตจะได้รับผลของการกระทำที่ดีกว่านี้
จำเป็นที่ครูททางจิตวิญญาณจะมอบบทเรียนล้ำค่าให้แก่ผู้ที่ปรารถนาอย่างแท้จริง
ให้เขาเหล่านั้นเข้าถึงความรู้สึกที่รู้ว่าเราเป็นคนที่ดีกว่านี้ได้ทันที ไม่ต้องใช้ชีวิตเพื่อรองรับผลของกรรมในอดีตอีกต่อไป
โค้ชโจ้
========
#สอบถามการจูนจิตเหนือสำนึกส่วนตัว
โทร.092-361-5346