หัวใจของการโค้ชจูนจิต คือ ทำให้คุณรู้ ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน เพื่อ “รู้” วิธีใช้ชีวิตผ่านอารมณ์และความรู้สึกที่ชีวิตนี้ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน อารมณ์ความสุขระดับสูงนั้นแหละ เป็นเหมือนลมใต้ปีกที่พัดพาคุณไปจนถึงฝั่งฝัน
.
มีความรู้อันล้ำลึกและอารมณ์มนุษย์อีกมากมายที่พวกเราเข้าไม่ถึง จึงเป็นเรื่องท้าทายมากที่จะอธิบายให้ผู้สนใจได้ “รู้” ว่าเขาจะได้รับอะไรจากการโค้ชจูนจิต และอารมณ์พวกนั้นสำคัญกว่าความรู้แบบท่องจำอย่างไร
.
เพราะการอธิบายว่า-อะไรเป็นอะไรนั้น ไม่สามารถช่วยให้ผู้ที่ยังไม่ได้ลงมือทำ รู้…ได้
.
เราต้องยอมรับความจริงขั้นสูงสุดให้ได้ก่อนว่า ถ้าเรายังไม่รู้สึกว่าชีวิตประสบความสำเร็จ
.
นั่นหมายความว่า “คุณยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้ชีวิตได้รับสิ่งนั้น” คราวนี้ก็ต้องถามตัวเองจริงๆแล้วล่ะว่า ตกลงจะเอายังไงกับชีวิตกันแน่ จะใช้ชีวิตเพื่อ “รู้” แล้วเปลี่ยนแปลง หรือยอมรับว่าอยู่แค่นี้ก็พอแล้ว
.
คำว่า ทำ – ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงทำงาน ทำอาชีพไหนถึงจะรวย แต่หมายถึงทำใจให้มีแรงบันดาลใจ เชื่อมั่น ศรัทธาในตัวเอง เพราะอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้คือเชื้อเพลิงที่จะผลักดันคุณไปให้ถึงความสำเร็จ
.
ต่อให้คุณได้งานที่ดีที่สุด ค่าจ้างสูงที่สุด แต่ขาดแรงบันดาลใจ ไม่รู้สึกเชื่อศรัทธาในตนเองว่าเหมาะสมแล้ว..ที่ฉันจะได้รับงานนี้
สุดท้ายคุณจะหล่นลงสู่ที่เดิม เจอปัญหาแบบเดิมไปตลอดชีวิต
.
ถ้าคุณเข้าใจว่านี่คือโชคชะตา มีพรหมลิขิตให้ชีวิตเป็นเช่นนั้น ความคิดนั้นก็ถูกต้อง แต่ความเชื่อเช่นนี้จะทำให้คุณมีชีวิตแบบถูกลงโทษแลกกับการได้รับรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ พอให้อยู่รอดเพื่อรอรับการลงโทษ(ชดใช้กรรม)ไปตลอดชีวิต
.
หรือ…คุณคิดว่าชีวิตไม่มีใครลิขิตให้เราล้มเหลวหรือสำเร็จทำร้ายเรา สิ่งที่ต้องโฟกัสในเวลานี้ คือ จะต้องหาวิธีการ “รู้” ไห้ได้ว่า..ผู้คนหรือเหตุการณ์ที่เราไม่ต้องการเข้ามาสู่ชีวิตได้อย่างไร
.
สำหรับคนที่ปราดเปรื่องและต้องการทางลัด จะเริ่มต้นหาวิธีการ “รู้” จากการแสวงหา “ครูหรือโค้ช” ที่สามารถบอกเราได้เลยว่า “ต้องทำอะไรบ้างกับชีวิต จะได้รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับชีวิต”
.
ดังนั้นการได้พบ “ครูหรือโค้ช” จึงเป็น ยาเม็ดแรก! ที่เปลี่ยนชีวิตของคุณได้เลย
.
ผมมีเรื่องเล่าที่ประทับใจมาก จากหนังสือของท่านโยคานันทะ มหาโยคีผู้ยิ่งใหญ่ ท่านเล่าถึงชายคนหนึ่งผู้ปรารถนาจะได้พบกับอาจารย์ผู้สอนให้เขาหลุดพ้นจากชีวิตที่ไม่ต้องการ ไปสู่ชีวิตใหม่ที่ปรารถนาจะได้รับ
.
วันหนึ่ง…ชายคนนี้รู้ว่าท่านมหาคุรุบาบาจี กำลังสอนลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งอยู่บนยอดเขาสูงแห่งหนึ่ง จึงดั้นด้นเดินทางฝ่าป่าเขาและปีนป่ายขึ้นไปยังยอดเขาลูกนั้น พร้อมกับภาวนาในใจว่า “ขอให้ได้เจอท่านคุรุสักทีเถิด เราคลาดกับท่านบาบาจีหลายหน ปีนเขาไปหาท่านก็หลายลูกแล้ว คราวนี้ถ้าได้เจอท่านจะได้ฝากตัวเรียนรู้กับท่าน”
.
เมื่อชายผู้นั้นปีนหน้าผาขึ้นจนเจอท่านบาบาจีกำลังสอนลูกศิษย์กลุ่มเล็กๆอยู่ (ท่านไม่สอนคนที่ไม่ตั้งใจจริง) ชายผู้นั้นรีบสาวเท้าเข้าไปนั่งกราบท่านขอให้รับเป็นศิษย์ แต่รอตั้งนานท่านก็ไม่กล่าวอะไร
.
“ท่านจะให้ข้าทำอย่างไรบ้างครับ จึงจะรับข้าเป็นศิษย์”
.
“แล้วเจ้าจะแสดงให้เราเห็นความตั้งใจจริงของเจ้าอย่างไร” ท่านบาบาจีตอบ
.
ชายผู้นั้นไม่พูดอะไร ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่หน้าผา จากนั้นก็..กระโดดลงไป ร่างแหลกเหลวอยู่เบื้องล่าง
.
ท่านบาบาจีเห็นดังนั้นก็รู้สึกพอใจ ลุกขึ้นแล้วเหาะลงไปเนรมิตให้ชายผู้นั้นฟื้นคืนชีพเพื่อรับเป็นศิษย์ของทา่น
.
ความตั้งใจจริงเท่านั้นที่จะพาให้เราไปสู่จุดหมาย แต่ความตั้งใจและพยายามก็ยังไม่พอนะครับ ความสำเร็จในชีวิตจำเป็นต้องมีครูหรือโค้ชช่วยบอกเส้นทางที่ท่านผ่านมาแล้ว แต่เรายังไม่ผ่าน เพื่อเราจะได้ไม่เสียเวลาติดหล่มชีวิต
.
สัจธรรมหรือวิธีการที่จะเปลี่ยนชีวิตให้เป็นคนโชคดีมีอยู่แล้ว ความจริงมีอยู่แล้ว แต่ถ้ารอให้เราเป็นผู้คนพบด้วยตนเอง เวลาที่เหลือในชีวิตของเราทุกคนไม่พอแน่นอน
.
ถ้าเรารู้สึกว่าชีวิตที่เป็นอยู่ขณะนี้ไม่มีความสุข ปรารถนาจะได้ชีวิตที่ดีกว่านี้แต่ไม่รู้ว่าจะดีได้อย่างไร การได้พบกับครูทางจิตวิญญาณที่จะไขรหัสสู่ชีวิตใหม่อย่างตรงจุดที่สุด แลกกับเวลาทั้งชีวิตที่จะมีความสุขเสียที
.
นี่คือยาเม็ดแรกของชีวิตที่เราทุกคนพลาดมาแล้วทั้งนั้น จึงใช้ชีวิตแบบคิดว่า “รู้” และไม่มีความสุขอย่างที่ปรารถนาเสียที
.
ยาเม็ดแรก คือ ครูที่จะชี้ทางแห่งจิตที่สว่างและชัดเจนแม่นยำให้กับเราได้ครับ
———–

วันที่ 19 – 22 ก.ค. 2562 ชาวไทยที่ยุโรป หากปรารถนาเปลี่ยนรหัสชีวิตและได้ชีวิตใหม่อย่างแท้จริง คอร์สจูนจิตจักรพรรดิ กับอาจารย์สถิตธรรม เพ็ญสุข ช่วยให้คุณได้รับยาเม็ดแรกที่พลาดโอกาสมาตั้งนานเสียที
พบกันที่ประเทศฮังการี | สอบถามกล่องข้อความ หรือ Line: @mastercoach